สินเชื่อรถยนต์
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักสินเชื่อประเภทสินเชื่อรถยนต์ ขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับคำสำคัญ หรือ Keyword หลักของสินเชื่อรถยนต์ก่อน ซึ่งประกอบด้วย 2 คำหลัก ได้แก่ “สินเชื่อ” และ “รถยนต์” นั่นเองโดยทั้งสองคำมีความหมายดังต่อไปนี้
สินเชื่อ คืออะไร?
“สินเชื่อ” หรือในภาษาอังกฤษ คือ Credit หมายถึง ความไว้วางใจของบุคคล และ/หรือนิติบุคคลฝ่ายหนึ่งที่มีต่อบุคคล และ/หรือนิติบุคคลอีกฝ่ายหนึ่ง ส่งผลให้สามารถเกิดการกู้ยืมเงินสินเชื่อเงินสดทันใจ หรือแม้กระทั่งซื้อสินค้าเป็นเงินเชื่อได้นั่นเอง ซึ่งการขอสินเชื่อนั้นต้องมีการระบุในสัญญาว่าจะชำระหนี้สินเชื่อนี้ภายในอนาคต
หากกล่าวถึงบุคคล และ/หรือนิติบุคคลข้างต้นนั้นมีความหมายว่า ผู้ให้สินเชื่อ ตัวอย่างเช่น สถาบันทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร บริษัทเงินทุน หมายรวมถึงบรรษัทเงินทุน และผู้ขอสินเชื่อ ผู่ได้รับสินเชื่อ คือบุคคลทั่วไป บริษัท ห้างหุ้นส่วน
โดยการที่สถาบันทางการเงินจะพิจารณาให้สินเชื่อแก่ผู้ขอสินเชื่อรายใด แสดงให้เห็นว่าสถาบันทางการเงินนั้นได้ไว้วางใจในผู้ขอสินเชื่อรายนั้น ซึ่งลูกค้ารายดังกล่าวอาจเป็นบุคคล และ/หรือบริษัท ที่ได้รับการพิจารณาความเสี่ยงจากสถาบันทางการเงินแล้ว โดยสถาบันทางการเงินจะดำเนินการทำนิติกรรมทางสัญญาการชำระสินเชื่ออย่างถูกต้อง
รถยนต์ คืออะไร?
รถยนต์ หรือในภาษังกฤษ คือ Car หมายถึง ยานพาหนะรูปแบบหนึ่ง โดยขับเคลื่อนที่บนบก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานประเภทหนึ่ง และเคลื่อนที่โดยอาศัยสู่ล้อผ่านการถ่ายพลังงานลงสู่ล้อ เพื่อนำพาผู้ขับยานพาหนะดังกล่าว ผู้โดยสาร หรือสิ่งของภายในรถยนต์ไปยังจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ได้ ปัจจุบันในปีพ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) ยานพาหนะรูปแบบรถยนต์นี้ส่วนใหญ่ถูกออกแบบซับซ้อนในระบบวิศวกรรมมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีให้เลือกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เกียร์กระปุก เกียร์ออโต้ หรือแม้กระทั่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งแตกต่างตามการใช้งาน และสำหรับเฉพาะกิจ ดังนั้นแล้วในปัจจุบันรถยนต์ถือเป็นสิ่งที่หลายต่อหลายคนอยากได้มาครอบครอง ก่อให้เกิดการระบบสินเชื่อรถยนต์มาจนถึงทุกวันนี้
ตารางผ่อนรถ
รถยนต์ในโลกใบนี้ ปัจจุบันในปีพ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) มีให้คุณเลือกมากมายหลากหลายแบรนด์ หลากหลายสัญชาติทั้งจากผู้ผลิตฝั่งเอเชีย ฝั่งยุโรป ฝั่งอเมริกาเป็นต้น ภายในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างตารางผ่อนรถยนต์จากค่ายของประเทศญี่ปุ่นที่พบเห็นคนไทยซื้อ ใช้งาน หรือยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ เป็นส่วนมาก
ตารางผ่อนรถ : Honda HR-V
เริ่มต้นที่รถยนต์จากค่ายฮอนด้า ซึ่งในปีพ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) นี้ได้ออกตารางผ่อนรถยนต์รุ่น HR-V ออกมาดังรูปด้านล่าง
ภาพด้านบนแสดงตารางผ่อนรถยนต์ Honda รุ่น HR-V เมื่อต้นปีพ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี โดยมีตัวเลือกการผ่อนรถตั้งแต่ดาวน์ร้อยละ 10 ไปจนถึงร้อยละ 30 ตั้งแต่ 48 งวดจนถึง 84 งวด
ตารางผ่อนรถ : Toyota-Yaris
ค่ายต่อมาได้แก่ โตโยต้า หนึ่งในแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นที่ครองตลาดรถยนต์เมืองไทยมาหลายต่อหลายปีแล้ว ต้นปีพ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024)ที่ผ่านมาได้มีการออกตารางผ่อนรถดังรูปด้านล่าง
ภาพด้านบนแสดงตารางผ่อนรถยนต์ Toyota รุ่น Yaris Urban ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี โดยมีตัวเลือกการผ่อนรถตั้งแต่ดาวน์ร้อยละ 10 ไปจนถึงร้อยละ 30 ตั้งแต่ 48 งวดไปจนถึง 84 งวด
ค่างวดรถ
นอกเหนือจากตารางผ่อนรถยนต์แล้ว ในโลกปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกแห่งออนไลน์ได้มีตัวช่วยให้คุณสะดวกสบายขึ้นมากมายเพียงนั่งอยู่ที่ไหนขอแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถใช้งานได้แล้ว ซึ่งก่อนที่จะไปขอสินเชื่อรถยนต์ทั้งสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และสินเชื่อรถยนต์มือสอง คุณสามารถคำนวณค่างวดรถยนต์เบื้องต้นได้จากโปรแกรมคำนวณค่างวดรถออนไลน์ โดยในรูปด้านล่างจะขอยกตัวอย่างการใช้โปรแกรมคำนวณค่างวดรถออนไลน์ของรถยนต์มูลค่า 5,000,000 ล้านบาท วางเงินดาวน์ 20% จำนวนการผ่อน 72 งวดเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี โดยได้ผลลัพธ์ดังนี้
จากรูปด้านบนโปรแกรมคำนวณค่างวดรถออนไลน์ได้คำนวณออกมาว่าหากคุณต้องการซื้อรถยนต์มูลค่า 5 ล้านบาท พร้อมทั้งวางเงินดาวน์ 20% จำนวนการผ่อน 72 งวดเป็นเวลา 6 ปี ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี คุณจะต้องวางเงินดาวน์ 1 ล้านบาท มียอดจัดไฟแนนซ์ 4 ล้านบาท โดยผ่อนเดือนละ 62,223 บาทนั่นเอง ดังนั้นแล้วหากคุณนำ 62,223 ไปคูณด้วย 72 งวด แล้วบวกเพิ่มอีก 1 ล้านบาท คุณต้องจ่ายเงินเป็นจำนวน 5,480,056 บาท ซึ่งมากกว่ามูลค่ารถยนต์ ณ วันนี้ที่ 5 ล้านบาทเนื่องจากอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจทำให้คุณต้องยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ในวงเงินที่สูงกว่ามูลค่ารถยนต์นั่นเอง ซึ่งต่อจากนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสินเชื่อรถยนต์ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความหายของสินเชื่อรถยนต์, การขอสินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อรถยนต์ที่ไหนดี เป็นต้น
สินเชื่อรถยนต์ คืออะไร?
สินเชื่อรถยนต์ หรือ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ หมายถึง การทำสัญญาซื้อ สัญญาขายระหว่างผู้ขอสินเชื่อรถยนต์กับบริษัทจำหน่ายรถยนต์นั่นเอง โดยสัญญาสินเชื่อรถยนต์นั้นเป็นรูปแบบการทำสัญญาเช่าซื้อผ่านตัวกลาง ได้แก่ สถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร ซึ่งสถาบันทางการเงินดังกล่าวจะชำระค่ารถยนต์แทนผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ โดยผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ต้องทำสัญญาตกลงผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ พร้อมทั้งอัตราดอกเบี้ยแก่สถาบันทางการเงิน หรือผ่อนกับบริษัทสินเชื่อดังกล่าวแทน
รูปแบบของสินเชื่อรถยนต์
สินเชื่อรถยนต์มีรูปแบบทั้งสิ้น 2 รูปแบบ ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อรถ และสินเชื่อระบบไฟแนนซ์ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สินเชื่อรถยนต์ : รูปแบบเช่าซื้อรถ
สินเชื่อรถยนต์รูปแบบแรก ได้แก่ การเช่าซื้อรถยนต์ โดยมีความหายว่า การเช่าซื้อรถยนต์ตามปกตินี่แหละ โดยผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ทำสัญญาซื้อขายรถยนต์กับบริษัทสินเชื่อทางช่องทางโชว์รูม ทั้งนี้บริษัทสินเชื่อจะเป็นผู้จ่ายค่าเช่าซื้อแทนผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ โดยจ่ายให้แก่โชว์รูม หลังจากนั้นผู้ขอสินเชื่อรถยนต์มีหน้าที่ผ่อนชำระเป็นงวดๆ กับบริษัทสินเชื่อ ซึ่งสินเชื่อรถยนต์ประเภทนี้มักมีข้อตกลงด้านกรรมสิทธิ์รถยนต์ต่างกันแล้วแต่เงื่อนไข
สินเชื่อรถยนต์ : รูปแบบระบบไฟแนนซ์
สินเชื่อรถยนต์รูปแบบระบบไฟแนนซ์จะต่างจากสินเชื่อรถยนค์ประเภทเช่าซื้อรถยนต์ตรงที่ คือผู้ขอสินเชื่อรถยนต์นั้นมีรถยนต์อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งได้ครอบครองแบบรผ่อนชำระครบหมดแล้ว แต่ผู้ขอสินเชื่อนั้นมีความประสงค์ ความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินสดเป็นจำนวนนึง ซึ่งสามารถนำรถยนต์คันดังกล่าวไปเข้าระบบจำนองกับบริษัทไฟแนนซ์ได้ เพื่อแลกรถยนต์คนนั้นเป็นเงินสด ซึ่งวิธีการนี้เป็นการเอารถยนต์ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แล้วจึงผ่อนจ่ายสินเชื่อตามจำนวนงวดที่ตกลงไว้ สินเชื่อรถยนต์รูปแบบระบบไฟแนนซ์นี้สามารถขอสินเชื่อได้กับรถทุกรุ่น ทุกประเภท เพียงแต่มีอัตราการประเมินวงเงินสินเชื่อต่างกันตามการพิจารณา หรือแม้กระทั่งจาดสายตาของช่าง และบริษัทสินเชื่อนั้นๆ โดยจะประเมินตามสภาพรถยนต์ รวมถึงอายุการใช้งานนั่นเอง
การขอสินเชื่อรถยนต์
การขอสินเชื่อรถยนต์ เช่น สินเชื่อเงินติดล้อรถยนต์ สามารถแบ่งขั้นตอนได้ตามแต่ละประเภทของผู้ขอสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะต้องเตรียมเอกสารสำหรับการขอสินเชื่อรถยนต์อยู่ทั้งสิ้น 3 เอกสารหลักๆ ประกอบด้วย บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และรายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ย้อนหลังครึ่งปี หรือ 6 เดือนนั่นเอง
ผู้ขอสินเชื่อรถยนต์แต่ละประภทใช้เอกสารนอกเหนือจาก 3 เอกสารหลักขั้นต้นพื้นฐาน แตกต่างกันไปตามแต่ละอาชีพ โดยแต่ละสาขาอาชีพนั้นใช้เอกสารในการขอสินเชื่อรถยนต์ ดังต่อไปนี้
การขอสินเชื่อรถยนต์ : พนักงานประจำ
เอกสารที่พนักงานประจำต้องเตรียมในการขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ มีไม่ถึง 10 อย่าง ประกอบด้วยบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด, หลักฐานด้านเงินเดือน หรือสลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด (ถ้ามี), ใบรับรองเงินเดือนออกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือ 30 วัน (ถ้ามี), บัตรปจะจำตัวพนักงาน (ถ้ามี), บัตรประกันสังคัม (ถ้ามี), ใบขับขี่รถยนต์ (ถ้ามี), และรูปถ่ายที่พักอาศัยปัจจุบัน รวมไปถึงรายละเอียดของที่พักอาศัยทั้งเลขที่บ้าน ภายใน และภายนอกบ้าน
การขอสินเชื่อรถยนต์ : ฟรีแลนซ์ / อาชีพอิสระ แบบรับเงินสด
เอกสารสำหรับบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระ แบบรับเงินสด หรือฟรีแลนซ์ต้องเตรียมในการขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ มีไม่มากเหมือนเอกสารของพนักงานประจำ ประกอบด้วยบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ย้อนหลังครึ่งปี หรือเท่าที่มี, หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ ทวิ50 (ถ้ามี), สัญญาการว่าจ้างงาน (ถ้ามี), เอกสารรับรองรายได้อิสระ (ถ้ามี), ผลงานที่ทำในอาชีพอิสระของคุณ (ถ้ามี) และเอกสารสุดท้าย คือ รูปถ่ายที่พักอาศัยปัจจุบัน รวมไปถึงรายละเอียดของที่พักอาศัยทั้งเลขที่บ้าน ภายใน และภายนอกบ้าน
การขอสินเชื่อรถยนต์ : เจ้าของกิจการ
ในส่วนของเอกสารที่เจ้าของกิจการต้องเตรียมในการขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่นั้นจะมีเพิ่มเติมขึ้นมาจากเอกสารในการขอสินเชื่อรถยนต์ของทั้งพนักงานเอกชน และฟรีแลนซ์ ซึ่งได้แก่ บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน, รายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ย้อนหลังหนึ่งปีล่าสุด,ใบจดนิติบุคคล หรือ ใบจดทะเบียนพาณิชย์, หนังสือรับรองบริษัท ซึ่งออกไม่เกินสองเดือน หรือ 60วัน, ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ภ.พ.20 (ถ้ามี), ใบสั่งซื้อ-สั่งขาย (ถ้ามี), สัญญาการว่าจ้างงาน (ถ้ามี), สัญญาการเช่า (ถ้ามี), หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ ทวิ50 (ถ้ามี), รูปถ่ายของกิจการที่คุณประกอบ หมายรวมถึง ตัวเลขที่ตั้ง ตัวกิจการ ภายในกิจการ สต๊อกสินค้า อุปกรณ์ และเครื่องมือ และสุดท้าย ได้แก่ รูปถ่ายที่พักอาศัยในปัจจุบัน รวมไปถึงรายละเอียดของที่พักอาศัยทั้งเลขที่บ้าน ภายใน และภายนอกบ้าน
การขอสินเชื่อรถยนต์ : พ่อค้าแม่ค้า ผู้ค้าขายแผงลอย และ/หรือ ผู้ค้าขายออนไลน์
สำหรับพ่อค้าแม่ค้า ผู้ค้าขายแผงลอย และ/หรือ ผู้ค้าขายออนไลน์แล้วสามารถขอสินเชื่อรถยนต์ได้เช่นกัน ซึ่งต้องใช้เอกสารดังต่อไปนี้ เริ่มต้นที่เอกสารพื้นฐานอย่างบัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน และรายการเดินบัญชีธนาคาร (Statement) ย้อนหลังครึ่งปีล่าสุด หรือเท่าที่มี โดยเอกสารอื่นๆ ที่ใช้ประกอบการขอสินเชื่อ ได้แก่ รูปถ่ายร้านค้า และ/หรือรูปถ่ายหน้าร้าน, กรณีขายของออนไลน์ ให้ถ่ายรูปสต๊อคสินค้า, หลักฐานการซื้อสินค้า และ/หรือวัตถุดิบ และเอกสารสุดท้ายได้แก่ รูปถ่ายที่พักอาศัยปัจจุบัน รวมไปถึงรายละเอียดของที่พักอาศัยทั้งเลขที่บ้าน ภายใน และภายนอกบ้าน
การคํานวณสินเชื่อรถยนต์
เมื่อทราบถึงการขอสินเชื่อรถยนต์ไปแล้ว ต่อมาจะกล่าวถึงการคํานวณสินเชื่อรถยนต์บ้าง โดยยกตัวอย่างสินเชื่อรถยนต์ดอกเบี้ยถูกในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี โดยสมมติจำนวนวงเงินกู้ขอสินเชื่อเท่ากับ 800,000 บาท ในระยะเวลากู้ 60 เดือนหรือ 5 ปี โดยได้ผลลัพธ์จากการคํานวณสินเชื่อรถยนต์ดังรูปด้านล่าง
จากรูปด้านบนหากผู้ขอกู้สินเชื่อจำนวน 8 แสนบาท เพื่อซื้อรถยนต์ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปี ผู้กู้สินเชื่อต้องผ่อนเป็นจำนวน 14,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 60 งวด หรือ 5 ปีนั่นเอง
เคล็ดลับการเลือกผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์
เมื่อได้รู้ถึงการคํานวณสินเชื่อรถยนต์ทางออนไลน์ ก่อนที่จะไปค้นหาว่าสินเชื่อรถยนต์ที่ไหนดี และ/หรือสินเชื่อรถยนต์ดอกเบี้ยถูกมีธนาคารไหนบ้าง ภายในย่อหน้านี้จะแอบมาบอกถึงเทคนิค เคล็ดลับการเลือกผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ให้คุณทราบ
เคล็ดลับการเลือกผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่ว่ามานั้น คือ การที่คุณควรเลือกผู้ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงมีประสิทธิภาพในการบริการสินเชื่อ ประกอบกับคุณควรคำนึงถึงการชำระเงินสินเชื่อในแต่ละงวด ในด้านการอำนวยความสะดวกสำหรับการใช้บริการ ไม่เพียงเท่านี้หากคุณสามารถเลือกสินเชื่อรถยนต์ในรูปแบบลดต้นลดดอกเบี้ยได้ด้วยยิ่งส่งผลดีต่อคุณ เนื่องมาจากหากคุณมีเงินก้อนในมือ คุณก็สามารถใช้เงินนั้นมาปิดหนี้ได้เร็วยิ่งขึ้น เพียงแต่แลกมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อรถยนต์แบบอัตราคงที่
นอกเหนือจากเอกสารที่จำเป็นในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ตามแต่ละประเภทการประกอบอาชีพของผู้กู้ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การขอสินเชื่อรถยนต์ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องจ่ายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าอากรสแตมป์ค่าโอนทะเบียนรถยนต์, ค่าเบี้ยประกันภัย, ค่าภาษีรถยนต์ และอื่นๆ ซึ่งหากมีการเตรียมตัวเป็นอย่างดี มีการเตรียมตัวล่วงหน้าในการนำค่าใช้จ่ายที่กล่าวมานั้นไปลบกับวงเงินที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้วนั้น คุณก็สามารถทราบจำนวนวงเงินแท้จริงที่คุณจะได้รับจากการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์ครั้งนี้นั่นเอง
สินเชื่อรถยนต์ที่ไหนดี
ในปีพ.ศ. 2566 ที่ผ่านมาธนาคารในประเทศไทยได้ออกนโยบายด้านสินเชื่อเพื่อบรรเทาปัญหาด้านการเงินของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ใหม่ สินเชื่อรถยนต์มือสองที่เรียกกันว่า “สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์” หรือพูดเรียกกันอย่างติดปากว่า “การจัดไฟแนนซ์”
การขอสินเชื่อรถยนต์จากสถาบันทางการเงินอย่างธนาคาร ผู้ซื้อจะทำการติดต่อขอซื้อรถยนต์กับผู้ขายรถยนต์ พร้อมกับนำเอกสารไปยื่นกับธนาคาร เพื่อขอกู้สินเชื่อรถยนต์มาผ่อนงวดรายเดือน ซึ่งวงเงินถูกคำนวณจากยอดคงเหลือที่หักจากเงินดาวน์ในตอนแรกแล้วนั่นเอง โดยตัวอย่างสินเชื่อรถยนต์ที่ยกมากล่าวนั้น ได้แก่ สินเชื่อรถยนต์กรุงศรี, สินเชื่อรถยนต์ cimb และสินเชื่อรถยนต์ ttb ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สินเชื่อรถยนต์กรุงศรี
สินเชื่อรถยนต์จากธนาคารกรุงศรีมีทั้งแบบสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และสินเชื่อรถยนต์มือสอง รวมไปถึงแบบรถบ้านอีกด้วย โดยมีข้อเสนอสุดพิเศษอย่างผ่อนดาวน์เริ่มต้นร้อยละ 5 และสามารถผ่อนงวดได้นานสูงถึง 84 เดือน หรือ 7 ปีด้วยกัน
สินเชื่อรถยนต์ cimb
มาต่อกันที่สินเชื่อรถยนต์จากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ซึ่งมีรูปแบบที่น่าสนใจในรูปแบบของแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า “CIMB Thai Auto” โดดเด่นด้วยสินเชื่อรถยนต์ดอกเบี้ยถูก ดอกน้อย สามารถผ่อนได้นาน อนมัติไว ทั้งนี้เป็นข้อเสนอสุดพิเศษเฉพาะแอพเท่านั้น
สินเชื่อรถยนต์ ttb
สินเชื่อรถยนต์จากธนาคาร TTB ธนชาติมีทั้งแบบสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และสินเชื่อรถยนต์มือสอง โดยธนชาตสินเชื่อรถยนต์ มีเงื่อนไขของสัญญากู้สินเชื่อรถยนต์ในระยะเวลาเช่าซื้ออย่างน้อยหนึ่งปี และสูงสุดไม่เกิน 7 ปี
สินเชื่อรถยนต์ pantip
สุดท้ายนี้เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณคงรู้จักกับสินเชื่อรถยนต์อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากคุณเสิร์ชในกูเกิ้ลว่า “สินเชื่อรถยนต์ pantip” คุณจะพบเจอกับกระทู้ต่างๆ ในเว็บ Pantip ที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อรถยนต์ที่เป็นความคิดเห็นจากผู้อื่นมากมาย ทั้งนี้หากคุณต้องการกู้สินเชื่อรถยนต์วงเงินนึงแล้วนั้น คุณควรศึกษาสินเชื่อรถยนต์ดังกล่าวอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
